ในปัจจุบันนี้ เว็บไซต์ช่วยให้นักเขียนโปรโมทผลงานได้ดีกว่าสื่อโซเชียลอย่างมาก แม้ว่าสื่อโซเชียลจะเข้าถึงผู้คนได้กว้างขวางและรวดเร็ว แต่เว็บไซต์มอบพื้นที่ที่เป็น กรรมสิทธิ์ของนักเขียน อย่างแท้จริง ช่วยให้สร้างแบรนด์ส่วนตัวและควบคุมการนำเสนอผลงานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียไม่สามารถให้ได้
การเป็นเจ้าของและควบคุมเนื้อหาอย่างเต็มที่
หัวใจสำคัญของข้อได้เปรียบนี้คือเรื่องของ การเป็นเจ้าของ (Ownership) บนโซเชียลมีเดีย นักเขียนเป็นเพียงผู้เช่าพื้นที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎและอัลกอริทึมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของแพลตฟอร์มนั้น ๆ การเข้าถึงโพสต์ การมองเห็น และแม้กระทั่งตัวตนของนักเขียนสามารถถูกจำกัดหรือเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการเข้าถึงผู้อ่านและโปรโมทผลงาน
ในทางกลับกัน การสร้างเว็บไซต์ส่วนตัวเปรียบเสมือนการสร้าง บ้านของตัวเอง บนโลกออนไลน์ นักเขียนมีสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจทุกอย่างตั้งแต่โครงสร้าง การออกแบบ การจัดหมวดหมู่เนื้อหา ไปจนถึงวิธีการแสดงผลงาน รูปแบบการนำเสนอจึงมีความยืดหยุ่นและเป็นอิสระกว่ามาก ไม่ต้องกังวลว่าอัลกอริทึมจะปิดกั้นหรือทำให้โพสต์ไม่ปรากฏให้ผู้อ่านเห็น นอกจากนี้ ข้อมูลผู้อ่านที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ยังเป็นของนักเขียนเองทั้งหมด ซึ่งสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายและวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดได้แม่นยำยิ่งขึ้น
การสร้างแบรนด์และภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ
การมีเว็บไซต์ของตัวเองช่วยยกระดับ ความน่าเชื่อถือ และ ความเป็นมืออาชีพ ของนักเขียนได้ทันที เว็บไซต์เป็นเหมือนพอร์ตโฟลิโอออนไลน์ที่รวบรวมผลงานทั้งหมดไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นบทความ นวนิยาย เรื่องสั้น หรือแม้แต่หนังสือที่ตีพิมพ์แล้ว นักเขียนสามารถจัดแสดงผลงานเหล่านั้นได้อย่างเป็นระบบและสวยงาม สร้างความประทับใจแรกพบให้กับสำนักพิมพ์ ตัวแทน หรือแม้แต่ผู้อ่านที่กำลังมองหาผลงานใหม่ ๆ
ลองนึกภาพนักเขียนที่ต้องการติดต่อสำนักพิมพ์เพื่อนำเสนอต้นฉบับ การมีเว็บไซต์ที่แสดงผลงานที่ผ่านมาอย่างเป็นระเบียบจะสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่าการให้ลิงก์ไปยังบัญชีโซเชียลมีเดียที่เต็มไปด้วยโพสต์ส่วนตัวและการอัปเดตที่ไม่เป็นทางการ นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังเป็นพื้นที่ที่นักเขียนสามารถเล่าเรื่องราวเบื้องหลัง แรงบันดาลใจ และแสดงตัวตนที่ลึกซึ้งกว่าการโพสต์ข้อความสั้น ๆ บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้อ่าน และทำให้ผู้อ่านรู้สึกผูกพันกับตัวตนของนักเขียนมากขึ้น
การจัดการและโปรโมทผลงานอย่างเป็นระบบ
ในด้านการโปรโมทและการขายผลงาน เว็บไซต์มีเครื่องมือที่เหนือกว่าสื่อโซเชียลอย่างชัดเจน นักเขียนสามารถสร้างหน้า Landing Page สำหรับหนังสือเล่มใหม่โดยเฉพาะ พร้อมรายละเอียดที่ครบถ้วน รีวิวจากนักอ่าน และลิงก์สำหรับสั่งซื้อโดยตรงจากร้านหนังสือออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถใช้ ระบบ E-commerce เพื่อขายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หรือสินค้าที่เกี่ยวข้อง (Merchandise) ได้เองโดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลางหรือแบ่งส่วนแบ่งให้กับแพลตฟอร์มอื่น ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เว็บไซต์ยังเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับการสร้าง รายชื่ออีเมล (Email List) ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังที่สุดสำหรับนักเขียน การเชิญชวนผู้อ่านให้สมัครรับจดหมายข่าวเพื่อรับข่าวสาร บทความ หรือเรื่องราวพิเศษเป็นวิธีที่ช่วยสร้างฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นและสามารถเข้าถึงได้โดยตรง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอัลกอริทึมที่เปลี่ยนไปเหมือนบนโซเชียลมีเดีย การส่งอีเมลแจ้งข่าวหนังสือใหม่หรือโปรโมชั่นพิเศษจึงมีประสิทธิภาพสูงกว่าการโพสต์บนโซเชียลมีเดียที่อาจมีคนเห็นเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น
SEO: กุญแจสู่การค้นพบที่ยั่งยืน
ข้อได้เปรียบที่สำคัญอีกประการหนึ่งของเว็บไซต์คือเรื่องของ การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (Search Engine Optimization หรือ SEO) เมื่อนักเขียนสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพบนเว็บไซต์ และใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับการเขียนหรือประเภทของผลงานอย่างเหมาะสม เนื้อหานั้นจะถูกจัดอันดับโดยเครื่องมือค้นหาอย่าง Google และ Bing ซึ่งหมายความว่าผู้อ่านที่กำลังค้นหาเรื่องราวหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลงานของนักเขียนจะสามารถค้นพบเว็บไซต์ได้โดยง่าย
ในทางตรงกันข้าม เนื้อหาบนโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่มักจะถูกจำกัดการค้นหาอยู่แค่ภายในแพลตฟอร์มนั้น ๆ และมีอายุสั้น โพสต์ที่สร้างขึ้นวันนี้อาจจะหายไปจากหน้าฟีดในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า แต่บทความหรือหน้าเว็บที่สร้างขึ้นบนเว็บไซต์สามารถคงอยู่และสร้างการเข้าชม (Traffic) ได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ซึ่งเปรียบได้กับการสร้าง สินทรัพย์ดิจิทัล ที่ทำงานให้นักเขียนได้อย่างไม่หยุดนิ่ง
บทบาทที่เสริมซึ่งกันและกัน: ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อขับเคลื่อนการเข้าชมเว็บไซต์
แม้ว่าเว็บไซต์จะเหนือกว่าในหลาย ๆ ด้าน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสื่อโซเชียลไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด ในความเป็นจริงแล้ว สองสิ่งนี้ควรทำงานร่วมกัน นักเขียนควรใช้สื่อโซเชียลมีเดียเป็น เครื่องมือในการดึงดูดการเข้าชม (Traffic Driver) ไปยังเว็บไซต์ของตนเอง
ลองนึกภาพการใช้บัญชีโซเชียลมีเดียเป็น “บัตรเชิญ” ไปยังบ้านของนักเขียน นั่นคือเว็บไซต์ส่วนตัว นักเขียนสามารถโพสต์ข้อความสั้น ๆ ที่น่าสนใจ หรืออัปเดตความคืบหน้าของงานเขียนบนโซเชียลมีเดีย และปิดท้ายด้วยการเชิญชวนให้ผู้อ่านเข้าไปอ่านบทความฉบับเต็ม หรือดูผลงานอื่น ๆ เพิ่มเติมบนเว็บไซต์ การทำเช่นนี้ช่วยให้การใช้สื่อโซเชียลมีเป้าหมายที่ชัดเจน และเปลี่ยนผู้ติดตามให้กลายเป็นผู้อ่านที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเขียนทุกคนต้องการ
สรุป: เว็บไซต์คือการลงทุนระยะยาวสำหรับอาชีพนักเขียน
กล่าวโดยสรุป การมีเว็บไซต์ส่วนตัวไม่เพียงแต่ช่วยให้นักเขียนโปรโมทผลงานได้ดีกว่าสื่อโซเชียลเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับอาชีพการเขียนในระยะยาวอีกด้วย เว็บไซต์มอบ กรรมสิทธิ์ ความน่าเชื่อถือ และระบบการจัดการ ที่โซเชียลมีเดียไม่สามารถให้ได้ มันคือพื้นที่ที่นักเขียนสามารถสร้างแบรนด์ สร้างฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่ง และควบคุมเส้นทางอาชีพของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์
ในขณะที่โซเชียลมีเดียทำหน้าที่ได้ดีในการสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มคนในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว เว็บไซต์คือ รากฐานที่มั่นคง ที่ช่วยให้นักเขียนสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในโลกออนไลน์ นักเขียนที่ต้องการประสบความสำเร็จในระยะยาวจึงไม่ควรมองข้ามการสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง เพราะนั่นคือการสร้างอาณาจักรของตนเองบนโลกดิจิทัลอย่างแท้จริง